1. โพลีเอสเตอร์เรซิ่น
เป็นพลาสติกเหลวชนิดหนึ่ง มีลักษณะคล้ายน้ำมันเครื่อง มีกลิ่นฉุน แข็งตัวด้วยความร้อนสูง ที่นิมยมใช้ในปัจจุบัน ใช้คู่กับสารเร่งปฏิกิริยา Butanox M60 + ตัวเร่งปฏิกิริยา Cobalt หรือที่นิยมเรียกว่าตัวม่วง หลังทำปฏิกีริยาเรซิ่นเหลวจะแข็งตัวตามรูปทรงของต้นแบบ และจะมีการหดตัว 2-8% และเรซิ่นแยกประเภทใช้งานออกเป็น 3 แบบหลักๆ คือ 1. เรซิ่นสำหรับหล่อชิ้นงานตัน 2.เรซิ่นสำหรับงานไฟเบอร์กลาสที่ต้องมีเส้นใยไฟเบอร์เข้ามาเสริมแรง เพื่อให้ชิ้นงานบางเบาและแข็งแรง 3.เรซิ่นสำหรับงานเคลือบ เช่น กรอบรูปวิทยาศาสตร์เป็นต้น
2. ตัวเร่งปฏิกิริยา Butanox M60
ตัวเร่งปฏิกิริยา หรือ ฮาร์ด คือตัวที่เมื่อใช้คู่กับตัวช่วงเร่งปฏิกิริยา แล้วจะทำให้เกิดปฏิริริยา โพลีเมอร์ไรเซชั่น ทำให้โพลีเอสเตอร์เรซิ่นแข็งตัว (จะให้เกิดปฏิกิริยาความร้อนสูง) อัตราการใช้อยู่ที่ 0.5-1%
3. ตัวม่วง Cobalt
เป็นสารเคมีที่ใช้ผสมเรซิ่น ทำให้เกิดปฏิกิริยาแข็งตัวเร็วขึ้น โดยใช้คู่กับ M50,M60 ก็ได้ แบ่งเป็น
4. สไตรีนโมโนเมอร์ Styline Monomer
เป็นส่วนผสมที่ใช้ผสมเรซิ่น เพื่อทำให้เหลวขึ้น มีกลิ่นฉุน อัตรส่วนผสมที่ใช้ประมาณ 10-20% เมื่อผสมสไตรินโมโนเมอร์เพิ่มจะทำให้เรซิ่นหดตัวมากขึ้นจากเดิมเล็กน้อย
5. ยางซิลิโคน
เป็นพลาสติกเรซิ่นชนิดหนึ่ง ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมาเลียนแบบยางธรรมชาติ ที่มีข้อจำกัดในด้านคุณภาพและยางซิลิโคนมีคุณภาพที่ดีกว่ายางธรรมชาติ ทั้งในเรื่องความเหนี่ยวของเนื้อยาง ความทนทาน อายุการใช้งาน การขึ้นรูป การหดตัวที่น้อยกว่า ตัวสียางซิลิโคนจะเหมือนกาวลาเท็กซ์ แต่ข้นกว่าเล็กน้อย
6. อาซิโทน Acetone
เป็นสารเคมีที่ใช้สำหรับล้างทำความสะอาดทั้งเครื่องมือ อุปกรณื และยังสามารถใช้ล้างทำความสะอาดมือได้ เย็นไม่กัดมือ มีกลิ่นคล้ายทินเนอร์ แต่อ่อนกว่า ระเหยง่าย และไวไฟ
7. ใยแก้วไฟเบอร์ Fiberglass
เป็นเส้นใยเสริมแรงที่ใช้ในงานหล่อไฟเบอร์กลาส FRP มีหลายรูปแบบสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของาน เช่น ใยแก้วแบบผืน ใยผ้า ใยตาสาน ใยเส้น ใยเส้นสั้น ใยทิชชู่ สำหรับในงานหล่อเรซิ่นทั่วไป นิยมใช้ใยแก้วมาทำเป็นแม่แบบพิมพ์นอกแทนปูนปลาสเตอร์ ที่ทำให้มีน้ำหนักเบาลงสะดวกต่อการทำงานมากขึ้น
ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับตัวน้ำยาเรซิ่นและเส้นใยไฟเบอร์เบื้องต้น หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ครับ
ผมต้องการทำบันใดไฟเบอร์แทนบันใดไม้ใผ่
1.คุณสมบัติความแข็งแรง ความเหนียว อายุการใช้งาน
ใหนดีกว่ากันครับ
2.ต้นทุนเท่าใร
3.ติดต่อใคร
หน้าที่เข้าชม | 1,006,001 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 676,940 ครั้ง |
เปิดร้าน | 21 พ.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 21 ต.ค. 2568 |